วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Blogger ขายของจาก amazon ได้เงินจริง

คอนเซ็ปของ Blogger สร้างเงินได้ เรา ตั้งใจที่จะชักชวนคนไทยเราหาเงินด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้องเสียเงิน ก็สามารถหาเงินได้จริงๆ และมีคนได้มาเยอะแยะแล้วครับ
สอนให้หาเงินโดยใช้บล็อกเกอร์
บางคนก็อาจจะสงสัยว่า แล้วจะสามารถขายของได้จริงหรือ คำตอบคือ จริง ผมจึงตั้งใจที่จะนำเอาวิธีการทำ หรือ บางคนก็เรียกแบบเก๋ๆ ว่า Road map/โร้ดแมป เพื่อจะได้รู้แนวทางว่า ควรจะทำอย่างไร ฝากไว้อีกอย่างนะครับว่า มันไม่ใช่สูตรสำเร็จ แต่เป็นแนวทางได้ เสร็จแล้ว แต่ละคนก็สามารถปรับ ให้เข้ากับสภาพที่ตัวเองพบเจอ เพื่อให้ได้ขาย


1. ถ้าใครยังไม่เคยขายของ amazon ได้ก็ให้นึกก่อนว่าจะขายอะไร มองดูของใกล้ตัวก่อนก็ได้ครับ แล้วไปที่เว็บนี้
http://www.google.com/insights/search/?hl=en-US#


2 หากสงสัยว่า แล้วผมไม่เคยขายเลย และยังไม่รู้ด้วยว่าจะเอาอะไรมาขาย อันดับแรก ต้องคิดถึงสิ่งรอบๆ ตัวเราก่อนว่า อะไรบ้างนะที่ไม่แพงมากเกินไป คนต้องใช้เป็นประจำ คิดออกหรือยังครับ ถ้ายังคิดไม่ออก บอกเป็นนัยให้ก็ได้ เช่น ของใช้เด็ก (พ่อแม่ย่อมอยากให้ลูกได้ใช่) เครื่องสำอาง (ผู้หญิงคือนักช็อปผู้ยิ่งใหญ่) เป็นต้น เมื่อคิดได้พอประมาณแล้ว ก็ลองเข้าไปหาดูที่ เว็บเครื่องมือฟรีไม่ต้องเสียเงินคือ Google Adwords ตามตัวอย่างข้างล่าง

blogger ขาย amazon


ส่วนบางคนก็อาจจะหาดูเทรนด์ หรือ แนวโน้มที่จะเป็นไปได้ของ Niche Keword ที่http://www.google.com/insights/search/?hl=en-US# ซึ่งก็อาจจะรีไดเร็คไปที่http://www.google.com/trends/?hl=en-US ก็ได้ ไม่เป็นไร

แต่ทั้งสองแบบผมได้ใช้ Filter เพื่อการหา key word ที่เจาะจงมากขึ้น โดยใช้ดังตัวอย่าง
- Product search  (ชื่อสินค้าที่เรายังจะเอามาเสิร์ช)
- United State  (การขายของใน amazon มีจุดมุ่งหมายเพื่อขายใน อเมริกา เพราะชอบซื้อของออนไลน์)
- Last 12 month (เพื่อให้ดูว่า มีคนค้นหาสักเท่าไร)

ทีนี้ก็เอาสินค้าที่เราต้องการจะมาหาคำกลางๆ หรือ ที่เรียกกันว่า niche ที่ช่องด้านซ้าย แล้วให้คลิกกดที่ search เพื่อหาคำที่เกี่ยวข้องดู ดังภาพ

ระบบรันสักครู่ แล้วก็จะมีกราฟ และตัวเลขอะไรต่างๆ ขึ้นมา แต่เราจะดูที่ trend ของสินค้าชนิดนี้ก่อนครับ ถ้ามีขึ้นมีลง นั่นโอเค แต่ถ้าเทรนด์ขึ้น ยิ่งเยี่ยมไปเลย ส่วนกลุ่มคำที่อยู่ข้างล่างนั้นนั่นแหละคือสิ่งที่มองหา ลองเอาไปเสิร์ชดูนะครับ ว่ามีคนเอาไปจดทะเบียนโดเมนเนมหรือยัง ถ้ายัง รีบจัดหนักไปเลย ไม่ต้องกลัวครับ ใน blogger ถ้าเราเอาไปดูมันจะรายงานเราเองว่า รายชื่อเว็บ หรือ โดเมนเนมนั้นว่างหรือไม่
แต่สิ่งที่จะต้องระวังก็คือ อย่าจดชื่อที่เป็น เครื่องหมายการค้า หรือ trademark นะครับ เดี๋ยวโดนฟ้อง แต่ถ้าโชคดีหน่อยก็จะโดนแค่เตือนให้เปลี่ยนชื่อโดเมน แค่นั้น

หรือหากใครที่กล้าสู้ ก็สามารถหา Niche keyword ที่อยู่ในเว็บ Amazon อยู่แล้วก็ได้ ลองเขียนคำที่ต้องการดู แล้วมันจะออกมาให้เลือกเยอะแยะ แต่หลายคนก็จะเอาคำนั้นมากรองในgoogle aword tools อีกทีหนึ่ง เพื่อคัดเอาคีย์ที่คิดว่า สู้คนอื่นได้ คือ หาที่มีคู่แข่งน้อยนั่นเอง

สำหรับการสร้างบล็อก อย่างละเอียด แนะนำให้หาความรู้ได้ที่บล็อกสอนเกี่ยวกับ blogger ที่Sapanaka.com เพราะเขาสอนละเอียดดี ส่วนการสร้างบล็อก ก็คำวันละ ไม่เกิน 2 บล็อกก็พอ ถ้าทำทีละเยอะๆ อาจจะทำให้โดนเพิ่งเล็งจากเจ้าของระบบ และอาจจะโดนปิดบล็อกได้ ผมเคยโดนมา สามสี่บล็อกแล้วครับ ถ้าจะให้ดี ก็ต้องเลือกเทมเพลตหรือธีม/Theme สวยๆ มาใช้ก็จะดี หรือไม่ก็หาธีมที่ดูน่าเชื่อถือหน่อย แต่ถ้าไม่รู้จะหาจากไหน ก็ให้เอาจากที่ระบบเขามีให้นั่นแหละ เพราะดีต่อระบบ SEO อยู่แล้ว แต่ถ้าอยากได้สวยกว่านั้นอีก ก็มีที่เว็บของอีตา Johnnyนะครับ เป็นเทมเพลตฟรี ไม่เสียตังส์ครับ
ถ้าหาก Niche หรือ Key world เราดีๆ ละก็โพสต์ไปไม่นาน ก็จะได้ขายละครับ

แต่ละบล็อกที่เราทำขึ้นมานั้น ให้โพสต์เนื้อหา หรือ สินค้า วันละ 1-2 อย่างก็พอ ถ้ารีบทำเยอะเกินไป อาจจะทำให้ความคิดตันได้ไวก็ได้ ฉะนั้น อย่างรีบร้อนดีกว่าครับ สินค้าของ Amazon มีเยอะก็จริง เนื้อหามีให้ก็จริง แต่ปัจจุบัน ทาง Amazon ไม่อนุญาตให้มีการก็อปมาวางแล้วนะครับ ต้องนำมารีไรท์ หรือ เขียนขึ้นใหม่ จะดีมาก เพราะจะทำให้บล็อกของคุณแรง สู้คนอื่นได้ เพราะมันไม่ ซ้ำใคร ถ้าคุณทำดีๆ มันจะทำให้คุณได้เงินมากกว่า เว็บเสียอีก (กรณีของผมเป็นอย่างนี้แหละครับ พอดีเว็บใช้เทมเพลตไม่เทพพอ)

หลังจากที่มีเนื้อหาในบล็อกแล้ว ก็เริ่มนำ URL ไปโพสต์ ตามเว็บซับมิตต่างๆ นี่เป็น เหตุผลสำคัญด้าน SEO ครับ เพราะหากเว็บเหล่านั้นมี bot เยอะ มันก็จะไต่เข้ามาหาบล็อกเรา ซึ่งจะทำให้บล็อกเราแรง อินเด็กซ์/Index ไว้ คือ คนสามารถค้นหาใน google ได้ง่ายขึ้น ซึ่งนี่เป็นหัวใจของการทำเว็บหรือทำบล็อกครับ ก็ซับมิตไป วันละ 10 หรือ 20 ที่ และทำไปเรื่อยๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติ จะได้ไม่ถูก Google เพ่งเล็ก

หมายเหตุ
แต่ล่ะบทความให้มีลิงค์ไปที่เว็บของ Amazon ประมาณ 3 สินค้าต่อ บทความก็พอครับ สิ่งที่ต้องมีประกอบด้วย คือ
1. รูปภาพของสินค้า
2. รายละเอียดของสินค้า หรือ product details
3. ปุ่ม Buy now

ถ้าทำตามนี้แล้วละก็ แป๊บเดียวก็ไข่แตกแล้วครับ 

ส่วนเงินค่า Commission หรือค่านายหน้า ก็ลองดูเอาเองนะครับ มีรายละเอียดอยู่ มีตั้งแต่ 3%ไปจนถึง 40% เลยทีเดียว ส่วนใครถนัดจะขายสินค้าของ Amazon ตัวไหน ก็เลือกได้ตามใจชอบ

ทำไมคนชอบทำกับเจ้านี้

เหตุผลที่คนทำกับแอมะซอน ก็เพราะว่า เงินดี มีเครื่องมือ และรายละเอียดให้เยอะที่สุด จ่ายแพงที่สุด ทำให้คนไทยที่ค้าสินค้าออนไลน์ หรือ ทำ Affiliate ก็หันมาทำกันหมด เพราะเงินดี และได้เงินจริง

ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก :http://blogsetthi.blogspot.com
In Category :
About The Author Surat Sangcham สวัสดีครับ blogger นี้จัดทำขึ้นเพื่อเก็บชิ้นงานของผม และเพื่อให้เพื่อนๆ ได้อ่านบทความต่างๆ เช่น วิธีการหาเงินออนไลน์ ความรู้เกี่ยวกับการทำบล็อกส่วนตัว ข่าวสารที่เกิดขึ้นต่างๆ หากคุณผู้อ่านสนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebok และ Twitter หรือ Google+

0 ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น